“ควอนจียง” หรือที่คนทั่วไปรู้จักกันในนาม “G-DRAGON” โลดแล่นในวงการบันเทิงกว่า 15 ปีที่ เริ่มต้นเส้นทางสายบันเทิงตั้งแต่ยังเป็นเด็กชายตัวเล็ก ในปี 2001 เขาเคยปล่อยอัลบั้มออกมาในฐานะนักร้องเด็ก “Little Roo’Ra” ก่อนจะเดบิวต์กับวง BIGBANG ในปี 2006 G-DRAGON รู้ชัดเจนตั้งแต่เด็กแล้วว่าเขาอยากเป็นศิลปิน ความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะประสบความสำเร็จหล่อหลอมให้หัวหน้าวง BIGBANG คนนี้เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์และความมั่นใจในตัวเอง

เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน G-DRAGON ได้ปรากฏตัวในรายการข่าวของช่อง JTBC และได้แสดงความคิดเห็นอย่างชัดเจนและตรงไปตรงมาแม้ว่าจะถูกผู้ประกาศข่าว Sohn Suk Hee ถามคำถามที่สุ่มเสี่ยงเมื่อถูกถามว่า “อะไรที่ทำให้ BIGBANG แตกต่างจากศิลปินวงอื่นที่โปรโมตเพลงพร้อมกัน”G-DRAGON ตอบว่า “เราทำเพลงเองและคนฟังก็ชอบเพลงของเรา การที่ได้ร้องเพลงที่แต่งเองทำให้เรามีความมั่นใจเมื่ออยู่บนเวทีครับ”G-DRAGON ตอบอย่างมั่นใจ

  คงไม่มีใครที่จะปลื้มใจกับความสำเร็จของ G-DRAGON ไปมากกว่า Yang Hyun Suk ประธานค่าย YG Entertainment ที่ปลุกปั้นและสนับสนุนนักร้องหนุ่มมาตั้งแต่เด็ก เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน ประธาน Yang ได้แสดงความเอ็นดูและผูกพันกับนักร้องหนุ่มผ่านการอัพโหลดภาพวัยเด็กของ G-DRAGON ที่ทำผมสไตล์ฮิปฮอปลง Instagram G-DRAGON ในตอนนั้นหน้าตาไม่ต่างจากตอนปัจจุบันมากนัก แต่รอยยิ้มน่ารักใสซื่อของหนุ่มน้อย G-DRAGON นั้นช่างต่างจาก G-DRAGON ที่เป็นแฟชั่นนิสต้าที่เรามักได้เห็นกันตามสื่อทุกวันนี้เหลือเกิน 

G-DRAGON นั้นโด่งดังไปทั่วโลกทั้งในฐานะสมาชิก BIGBANG และศิลปินเดี่ยว นอกจากทำเพลงแล้ว ศิลปินหนุ่มยังมีความสนใจในแฟชั่นและศิลปะด้วยเช่นกัน รสนิยมทางแฟชั่นที่โดดเด่นทำให้ G-DRAGONรู้จักคนดังในแวดวงแฟชั่นมากมาย รวมไปถึงดีไซน์เนอร์ระดับตำนานประจำแบรนด์ Chanel อย่าง Karl Langerfield ด้วย 

เร็ว ๆ นี้ G-DRAGON ได้จัดแสดงนิทรรศการศิลปะชื่อว่า “PEACEMINUSONE: Beyond the Stage” ที่ Seoul Museum of Art ร่วมกับศิลปินท่านอื่นอีก 12 ท่าน นักร้องหนุ่มได้กล่าวว่า “ผมสนใจเรื่องแฟชั่นและศิลปะครับ คนอาจรู้สึกแปลก ๆ ที่ผมหันมาจับงานศิลปะ แต่ผมอยากช่วยให้ศิลปะเข้าถึงคนง่ายขึ้นครับ”  นอกจากนี้ G-DRAGON ได้เผยว่าการหันไปทำงานศิลปะแขนงอื่น ๆ นั้นเป็นส่วนหนึ่งของแผนการที่เขาวางไว้สำหรับอนาคต “เราวางแผนชีวิตล่วงหน้าสำหรับอีก 5 หรือ 10 ปี การหันไปจับศิลปะด้านอื่นบ้างก็เป็นส่วนหนึ่งของแผนนั้นครับ”

  นอกจากนี้ ในให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว OSEN G-DRAGON ได้แสดงถึงทัศนคติที่โตขึ้นและมุมมองต่อการทำเพลงที่เปลี่ยนแปลงไป วิธีการสร้างสรรค์งานของเขาและสมาชิก BIGBANG ได้ก้าวพ้นคำว่า “ไอดอล” ไปสู่การเป็น “ศิลปิน” ที่แท้จริงด้วยการใส่ใจถึงความเป็นธรรมชาติและจินตนาการมากกว่าการสร้างผลงานมาสเตอร์พีซ

 “แทนที่จะมัวแต่คิดว่าเพลงใดเพลงหนึ่งต้องดังที่สุด พวกเราแชร์ความคิดกันเพื่อที่เพลงจะได้ออกมาลงตัวที่สุด วิธีร้อง การแสดงออก ทุกอย่างสำคัญหมด เราให้ความสำคัญกับความเป็นธรรมชาติมากกว่าการสร้างอะไรพิเศษ ๆ ออกมา แต่ก่อนเวลาเราอัดเพลง เราจะยืนอ่านเนื้อร้อง แต่ตอนนี้เราจำเนื้อร้องและปิดไฟเวลาอัดเพลงเพื่อที่เราจะได้จินตนาการตามเนื้อเพลงได้”

  ความสามารถรอบด้านของ G-DRAGON ทำให้ผู้คนต่างจับตามองว่าก้าวต่อไปของศิลปินคนนี้จะเป็นอย่างไร เมื่อถูกถามถึงทิศทางที่วางไว้สำหรับอนาคต G-DRAGON ได้กล่าวว่า “10 ปีตั้งนับจากวันเดบิวต์จะว่าสั้นก็สั้น จะว่ายาวก็ยาว แต่เราเดินมาถึงจุดที่เลือกจะมองแต่สิ่งดี ๆ และทำเพลงของเราไป เราไม่พยายามเค้นเพลงดี ๆ ออกมาอีกต่อไปแล้ว เพลงของเราต้องมีอะไรที่พิเศษและมีความหมายมากกว่านั้น เราอยากให้เพลงของเราช่วยให้คนฟังเกิดจินตนาการครับ”

  ก้าวต่อไปของ G-DRAGON จะเป็นอย่างไรก็ต้องคอยดูกันต่อไป แต่ตอนนี้เขาและเพื่อนสมาชิกกำลังประสบความสำเร็จอย่างสวยงามในการคัมแบคครั้งล่าสุด ในขณะนี้ ยอดวิวของ MV เพลง “BANG BANG BANG” ของ BIGBANG ทะลุ 20 ล้านครั้งแล้ว