ทุกวันนี้ได้ด้วยความพยายาม ...

    พูดชื่อ #SelenaGomez  จขกท. กล้าพูดเลยว่าไม่มีใครไม่รู้จัก ไม่ว่าจะเป็นเพลงชื่อดังของเธออย่าง Hand To My Self

หรือจะเป็น same old love

หรือรู้จักเธอจากการเป็นอดีตกับแฟนหนุ่มกับผู้ชายสุดฮอตอย่าง Justin Bieber 

( จขกท. อยากให้เขากลับมาคบกันอีกมาก TT)

ไม่ว่าจะรู้จักเธอจากอะไรมา แต่จขกท. เชื่อว่ามีหลายอย่างที่คุณไม่รู้เกี่ยวกับ#SelenaGomez 

.

.

.

ไม่รอช้า มาเริ่มรู้จักเธอดีกว่า

ขนาดแค่ตอนเด็กมงก็ลงแล้ว

#SelenaGomez  พูดถึงชีวิตวัยเด็กว่าชีวิตในวัยเด็กของเธอลำบากมากกกกกกกกกกกกกกก(ลากหลายตัวมาก) พ่อแม่แยกทางกัน แม่คลอดเธอตั้งแต่อายุเพียงแค่ 16 ปี โดยแม่เป็นคนเลี้ยงดูเธอมาโดยตลอด ไม่เท่านั้น เธอยังเล่าว่า แม่ของเธอต้องทำงานกว่า 3 กะ เพื่อเอาเงินมาเลี้ยงดูเธอ

ในวัยเด็กของเธอ #SelenaGomez  จะต้องเห็นแม่ของเธอทำงานอย่างหนัก เพื่อให้เธอมีชีวิตเป็นอยู่ที่ดี  #SelenaGomez  จึงตั้งใจว่า จะทำงานแล้ววันหนึ่งจะให้แม่ของเธอได้อยู่อย่างสบาย

#SelenaGomez  ในวัยเด็ก โดยที่มีแม่ของเธออุ้มไว้อยู่

  ด้วยความที่แม่ของเธอทำงานอยู่ในฝ่าย production ของ Disney อยู่แล้ว  ทำให้เธอเริ่มสนใจวงการบันเทิง เธอจึงไปลองออดิชั่น

เริ่มด้วย ไดโนเสาร์ตัวสีม่วง แบบนี้ทุกคนอาจเคยเห็น จขกท. เองก็คุ้นตา มันคือ Barney นี่เอง ! แต่หญิงสาวที่กอด Barney แหละคือใคร หลายคนคงร้องอ้อแล้ว หลายคนยังไม่แน่ใจ งั้น จขกท. พาไปดูอีกภาพ

เริ่มแล้วรู้ใช่ไหมละว่าใคร จขกท. เฉลยเลยก็แล้วกัน  เธอคือ #SelenaGomaz นี่เอง  ก่อนที่เธอจะมาเป็นนักร้องชื่อดังอย่างเช่นทุกวันนี้ #SelenaGomaz เติบโตมาจากซีรีส์ของ Disney

ซึ่ง Barney นี่เองทำให้เธอได้รู้จักกับ Demi Lovato และทำให้ได้กลายเป็นเพื่อนสนิทกัน

แต่ใช่ว่าทุกอย่างจะราบรื่น หลังจากที่ #SelenaGomaz เล่นได้ 2 ปี เธอก็ถูกปลดกลางอากาศ โดยเหตุผลที่เธอโดนปลดเพราะว่า “แก่เกินไป” ซึ่ง #SelenaGomaz เสียใจจากเรื่องนี้มาก เรียกได้ว่าน้ำตาตก ซึ่งเธอพูดกับเรื่องนี้ว่า 

"ฉันได้เรียนรู้ว่า แค่เพียงกระพริบตา ทุกสิ่งที่เคยมีก็หายไปได้ ทำให้ฉันได้รู้ว่าฉันต้องยินดีกับทุกสิ่งที่เข้ามาในทุกวัน และทำมันให้ดีที่สุด"

แต่เธอก็ไม่ท้อ เธอก็พยายามไปออดิชั่นให้อีกหลายรายการ เธอพูดว่า "ฉันอยากจะรู้สึกว่าฉันสมควรได้รับบทนั้น เพราะฉะนั้นฉันจึงออดิชั่นทุกเรื่อง" จขกท. ได้ยินแบบนี้รู้เลยว่า เธอพยายามอย่างหนักจริงๆ

  ส่วนคลิปอันนี้มาจากการออดิชั่นของเธอ ตอนที่เธอออดชั่นเพื่อร่วมแสดงภาพยนตร์เรื่อง Wizards of Waverly Place

หลังจากนั้นเธอก็วนเวียนอยู่ในวงการภาพยนตร์ อีกหลายเรื่อง เช่น Spy Kids 3: Game Over

ซึ่งหลังจากเรื่อง Wizards of Waverly Place ก็เป็นโอกาสอันดี นำเธอไปสู่ภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ อย่าง Spring Breakers,Neighbors 2: Sorority Rising และ The Big Short.

ก่อนที่เธอจะประสบความสำเร็จในวงการหนังแล้ว เธออยากเข้ามาในวงการเพลงบ้าง รู้หรือไม่ !  หลายคนอาจคิดว่าเธอเปิดตัวในฐานะที่เป็นนักร้องเดี่ยว แต่แท้จริงแล้วเธอ เปิดตัวในฐานะวงต่างหาก โดยเธอเข้าสู่วงการเพลงจากวงที่ชื่อ  Selena Gomez & the Scene band

  ซึ่งจริงๆแล้ววงนี้จะชื่อ the scene band ด้วย เพราะ #SelenaGomez เองก็ไม่อยากให้ชื่อเธอเด่นและนำหน้า แต่ทางค่ายของเธออยากให้มีชื่อเธออยู่ด้วย เพราะ #SelenaGomaz ในตอนนั้นมีฐานแฟนคลับอยู่แล้ว

โดยอัลบั้มที่ออกมาก็มี 3 อัลบั้มด้วยกัน

Kiss & Tell (2009) , A Year Without Rain (2010) , When the Sun Goes Down (2011)

หลังจากออกอัลบั้มในฐานะวงมาได้ ก็ถึงเวลาบายๆ ในฐานะวงพร้อมก้าวออกมาเป็นศิลปินเดี่ยวอย่างเต็มตัว เธอเปิดตัวด้วยเพลงชื่อดังอย่าง come&get it ... คุ้นหากันใช่ไหมล้าาาา ซึ่งเพลง come & get it ก็เป็นส่วนหนึ่งของอัลบั้ม Star Dance

เรียกได้ว่ากระแสยังไม่หยุดฮอตเพียงเท่านั้นหลังจากซุ่มเงียบอยู่สองปี #SelenaGomez ได้กลับมาใหม่กับอัลบั้ม Revival

(รูปนี้สวยมว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก)

  ซึ่งความพิเศษของอัลบั้มนี้ก็คือ เป็นการออกมาจากชายคาของ Disney อย่างเต็มตัว เพราะเธอได้ย้ายมาอยู่ค่าย Interscope ซึ่งมีศิลปินชื่อดังในค่ายมากมายอย่าง Madonna , Lady Gaga หรือจะเป็น Maroon 5 ก็ตามแต่ เรียกได้การกลับมาครั้งนี้ของเธอ ปังๆๆอย่างแน่นอน

(เธอก็กำลังจะมาไทยด้วย กรี๊ดดดดดดดดด ตื่นเต้นน)

นอกจากนั้นในอัลบั้ม Revival ยังมีความพิเศษและไม่ธรรมดาอีกนั้นก็คือ เธอเป็นคนแต่งเพลงและโปรดิวเพลงในอีกหลายๆเพลง ซึ่งถือว่าเป็นการกลับมาของเธอที่ไม่ธรรมดา

เห็นได้เลยว่า กว่าเธอจะมีได้ทุกวันนี้เธอผ่านมาหลากหลายอย่างแล้วจริงๆ จขกท. นับถือในความตั้งใจของเธอเป็นอย่างมาก ซึ่งช่วงนี้เข้ากับช่วงสอบเข้ามหาลัยพอดี ก็อยากบอกว่า ชีวิตคือการต่อสู้จริงๆ อยากได้อะไรมา ต้องพยายามจนกว่ามันจะได้

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก ><

MTV,Billboard,popsugar,dailymail,wikipedia